Stop Loss คืออะไร? Take Profit คืออะไร? สอนวิธีการตั้ง, การหาจุด TP และ SL โดยใช้ Indicator ว่าควรตั้งเท่าไหร่ดี ทำได้ทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์
แนะนำสำหรับคุณ
Stop Loss คืออะไร?
Stop Loss (SL) คือ คำสั่งในการระบุราคาที่แน่นอนในการปิดออเดอร์ที่เปิดไว้เพื่อไม่ให้ราคาต่ำไปกว่าที่กำหนด ซึ่งสามารถใช้สำหรับการหยุดขาดทุน หรืออาจใช้ในกรณีป้องกันไม่ให้กำไรลดลงต่ำไปกว่าจุดที่กำหนดก็ได้
ตัวอย่างการตั้ง Stop Loss
ตัวอย่าง 1
เปิดออเดอร์ BUY ในคู่เงิน EURUSD ที่ 1.00915 โดยตั้ง Stop Loss (SL) ไว้ที่ 1.00832 ต่อมาหากราคาวิ่งไปถึง 1.00832 ระบบก็จะปิดออเดอร์เพื่อหยุดขาดทุนให้อัตโนมัติ
ตัวอย่าง 2
เปิดออเดอร์ BUY ในคู่เงิน EURUSD ที่ 1.00850 ต่อมาราคาวิ่งไปที่ 1.00869 (เราได้กำไรแล้ว) เราจึงตั้ง Stop Loss (SL) ไว้ที่ 1.00858 ต่อมาหากราคาวิ่งลงไปถึง 1.00858 ระบบก็จะปิดออเดอร์เพื่อรับผลกำไรให้อัตโนมัติ
ซึ่งการตั้ง Stop Loss ในรูปแบบนี้มันช่วยการันตีว่าเราจะไม่กลับไปขาดทุนอีก เนื่องจากเราได้ตั้ง Stop Loss สูงกว่าตอนที่เราเปิดออเดอร์ (สามารถตั้ง Stop Loss รูปแบบนี้ได้เฉพาะตอนออเดอร์ที่ถืออยู่ได้กำไรแล้วเท่านั้น)
วิธีการตั้ง Stop Loss Forex
วิธีการตั้ง Stop Loss Forex บนโทรศัพท์มือถือ
กรณียังไม่เปิดออเดอร์
- กดที่เมนู “Quotes”
- กดที่คู่เงินที่ต้องการเทรด
- กด “คำสั่งใหม่”
- กรอกจุด Stop Loss ลงในช่อง SL
กรณีเปิดออเดอร์แล้ว
- กดที่เมนู “การซื้อขาย”
- กดค้างไว้ที่ออเดอร์ที่ต้องการตั้ง Stop Loss
- กด “ปรับเปลี่ยนสถานะ”
- กรอกจุด Stop Loss ที่ต้องการลงในช่อง SL
- กด “ปรับเปลี่ยน”
วิธีการตั้ง Stop Loss Forex บนคอมพิวเตอร์
กรณียังไม่เปิดออเดอร์
- คลิกขวาที่กราฟ
- เอาเมาส์ชี้ที่เมนู “Trading”
- กด “New Order”
- กรอกจุด Stop Loss ที่ต้องการลงในช่อง “Stop Loss:”
กรณีเปิดออเดอร์แล้ว
- คลิกขวาที่ออเดอร์ที่ต้องการตั้ง Stop Loss
- กดที่เมนู “Modify or Delete”
- กรอกจุด Stop Loss ลงในช่อง “Stop Loss:”
- กด “Modify”
การหาจุด Stop Loss
การหาจุด Stop Loss ว่าควรตั้งตรงไหนเท่าไหร่ดีนั้น สามารถทำได้หลายวิธี
และนี่คือตัวอย่างบางส่วน:
1.การตั้ง Stop Loss ที่แนวรับแนวต้าน
แนวรับแนวต้านคือจุดที่ราคาไปแตะแล้วมักจะมีการกลับตัว แต่หากผ่านไปได้แปลว่าได้มีการเปลี่ยนแนวโน้มของราคา แนวรับแนวต้านเลยเป็นจุดที่ดีมากๆในการตั้งจุด Stop Loss
เช่น จากตัวอย่างนี้จะเห็นว่าราคามักไปแตะเส้นสีฟ้าแล้วเด้งขึ้น แบบนี้จะเรียกว่าแนวรับ
ทีนี้ตอนเทรด เช่น หากจะเปิดออเดอร์ BUY ก็ตั้ง Stop Loss ไว้ที่แนวรับ
2.การตั้ง Stop Loss โดยการใช้ Fibonacci Retracement
เริ่มแรกให้เราลาก Fibonacci Retracement จากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุด จากนั้นก็ตั้ง Stop Loss ไว้ที่จุดต่างๆ
เช่น จากภาพนี้หากจะเปิดออเดอร์ SELL ก็ควรจะตั้ง Stop Loss ไว้ที่เส้น Fibonacci Retracement 100 (หรือเส้นอื่นๆก็ได้ตามรูปแบบกราฟและระบบเทรดของคุณ)
3.การหาจุด Stop Loss โดยใช้ indicator
มี Indicator ต่างๆมากมายในการใช้เป็นจุด Stop Loss จะขอยกตัวอย่าง Indicator ที่นิยมใช้กันมาให้ดู
3.1.การหาจุด Stop Loss โดยใช้ indicator Moving Average
เช่นจากตัวอย่างนี้เราเปิดออเดอร์ BUY แล้วตั้ง Stop Loss ไว้ที่เส้น Moving Average 200
3.2.การหาจุด Stop Loss โดยใช้ indicator Bollinger Bands
เช่น จากตัวอย่างนี้เราเปิดออเดอร์ BUY แล้วตั้ง Stop Loss ไว้ที่เส้น Bollinger Bands เส้นล่างสุด
4.การตั้ง Stop Loss แบบตายตัว
4.1.การตั้ง Stop Loss เป็นจุดหรือ Pip
เช่น ตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 200 จุด, ตั้ง Take Profit ไว้ที่ 30 Pip
4.2.การตั้ง Stop Loss เป็น % ของเงินทุน
เช่น ตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 2% ของเงินทุน
สมมุติ มีเงินทุน 500 USD เทรด EURUSD ที่ 0.01 Lot
หากต้องการตั้ง Stop Loss ที่ 2% ของเงินทุน ก็แปลว่ารับผลขาดทุนได้ 10 USD
ซึ่งแปลว่าต้องตั้ง Take Profit ไว้ที่ 1000 จุด
Stop Loss ข้อดีข้อเสีย
Stop Loss ข้อดี
- ช่วยจำกัดความเสียหายในการขาดทุนให้อยู่ในระดับที่เรารับได้
- ป้องกันไม่ให้เกิดการล้างพอร์ตหรือการขาดทุนจนเงินเหลือ 0
- ทำให้ทราบผลขาดทุนที่จะเกิดล่วงหน้าว่าเป็นเงินเท่าไร ช่วยให้จัดสรรเงินลงทุนได้ง่าย
- ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลาเพื่อคอยกดปิดออเดอร์ด้วยตนเอง
- ช่วยลดความกังวล เพราะเมื่อตั้ง Stop Loss ไว้แล้วเราก็อุ่นใจได้ว่าจะไม่ขาดทุนไปมากกว่าจุดทั้งเราตั้งไว้
- สามารถใช้ Stop Loss ในการล็อกผลกำไรได้ ไม่ให้เรากลับไปขาดทุนอีก (ในกรณีที่ออเดอร์นั้นได้กำไรแล้ว)
Stop Loss ข้อเสีย
- ในบางครั้งที่ราคาผันผวนมากๆอาจเหวี่ยงลงมาชนจุด Stop Loss ได้ง่าย เช่น มันอาจจะลงมาไม่กี่วินาทีก็กลับไปที่จุดเดิม
- การตั้ง Stop Loss ที่น้อยจนเกินไปทำให้มีโอกาสโดน Stop Loss ได้ง่าย เช่น ตั้ง Stop Loss ไว้แค่ 50 จุด โอกาสที่จะโดน Stop Loss มีเยอะมากๆ
Take Profit คืออะไร?
Take Profit (TP) คือ คำสั่งในการระบุราคาที่แน่นอนในการปิดออเดอร์ที่เปิดไว้เพื่อทำกำไร เช่น เปิดออเดอร์ BUY ในคู่เงิน EURUSD ที่ 1.20000 โดยตั้ง Take Profit (TP) ไว้ที่ 1.25000 ต่อมาหากราคาวิ่งไปถึง 1.25000 ระบบก็จะปิดออเดอร์เพื่อรับผลกำไรให้อัตโนมัติ
ตัวอย่างการตั้ง Take Profit
เปิดออเดอร์ BUY ในคู่เงิน EURUSD ที่ราคา 1.00926 แล้วตั้ง Take Profit (TP) ไว้ที่ราคา 1.01040
หากในเวลาต่อมาราคาวิ่งจาก 1.00926 ไปถึง 1.01040 ระบบก็จะทำการปิดออเดอร์เพื่อรับผลกำไรให้เราโดยอัตโนมัติ โดยระหว่างนั้นเราสามารถปิดคอมพิวเตอร์หรือมือถือไปได้เลย เพียงแค่รอให้ราคามันวิ่งไปเท่านั้น
วิธีการตั้ง Take Profit Forex
วิธีการตั้ง Take Profit Forex บนโทรศัพท์มือถือ
กรณียังไม่เปิดออเดอร์
- กดที่เมนู “Quotes“
- กดที่คู่เงินที่ต้องการเทรด
- กด “คำสั่งใหม่”
- กรอกจุด Take Profit ลงในช่อง TP
กรณีเปิดออเดอร์แล้ว
- กดที่เมนู “การซื้อขาย”
- กดค้างไว้ที่ออเดอร์ที่ต้องการตั้ง Take Profit
- กด “ปรับเปลี่ยนสถานะ”
- กรอกจุด Take Profit ที่ต้องการลงในช่อง TP
- กด “ปรับเปลี่ยน”
วิธีการตั้ง Take Profit Forex บนคอมพิวเตอร์
กรณียังไม่เปิดออเดอร์
- คลิกขวาที่กราฟ
- เอาเมาส์ชี้ที่เมนู “Trading”
- กด “New Order”
- กรอกจุด Take Profit ที่ต้องการลงในช่อง “Take Profit:”
กรณีเปิดออเดอร์แล้ว
- คลิกขวาที่ออเดอร์ที่ต้องการตั้ง Take Profit
- กดที่เมนู “Modify or Delete”
- กรอกจุด Take Profit ลงในช่อง “Take Profit:”
- กด “Modify”
การหาจุด Take Profit
การหาจุด Take Profit ว่าควรตั้งตรงไหนเท่าไหร่ดีนั้น สามารถทำได้หลายวิธี
และนี่คือตัวอย่างบางส่วน:
1.การตั้ง Take Profit ที่แนวรับแนวต้าน
แนวรับแนวต้านคือจุดที่ราคาไปแตะแล้วมักจะมีการกลับตัว แต่หากผ่านไปได้แปลว่าได้มีการเปลี่ยนแนวโน้มของราคา แนวรับแนวต้านเลยเป็นจุดที่ดีมากๆในการตั้งจุด Take Profit
เช่น จากตัวอย่างนี้จะเห็นว่าราคามักไปแตะเส้นสีชมพูแล้วเด้งลง แบบนี้จะเรียกว่าแนวต้าน
ทีนี้ตอนเทรด เช่น หากจะเปิดออเดอร์ BUY ก็ควรตั้ง Take Profit ไว้ที่เส้นแนวต้าน (เส้นสีชมพู)
2.การตั้ง Take Profit โดยการใช้ Fibonacci Retracement
การใช้ Fibonacci เป็นจุด Take Profit ก็นิยมใช้กันมากๆ
เริ่มแรกให้เราลาก Fibonacci Retracement (ดูวิธีลากได้ใน Google) จากนั้นก็ตั้ง Take Profit ไว้ที่จุดต่างๆ
เช่น ตัวอย่างนี้หากจะเปิดออเดอร์ SELL ก็ควรจะตั้ง Take Profit ไว้ที่เส้น Fibonacci 76.4 (หรือที่เส้นอื่นๆก็ได้ตามรูปแบบกราฟและระบบการเทรด Forex ของคุณ)
3.การหาจุด Take Profit โดยใช้ indicator
มี Indicator ต่างๆมากมายในการใช้เป็นจุด Take Profit จะขอยกตัวอย่าง Indicator ที่นิยมใช้กันมาให้ดู
3.1.การหาจุด Take Profit โดยใช้ indicator RSI
เช่น จากตัวอย่างนี้หากเปิดออเดอร์ BUY ก็จะ Take Profit เมื่อ RSI ตัดเส้น 70 ลงมา
3.2.การหาจุด Take Profit โดยใช้ indicator Stochastic
เช่น จากตัวอย่างนี้หากเปิดออเดอร์ BUY อยู่ ก็จะ Take Profit เมื่อเส้นเขียวตัดเส้นประแดงลง ขณะมี %K มากกว่า 80
4.การตั้ง Take Profit แบบตายตัว
4.1.การตั้ง Take Profit เป็นจุดหรือ Pip
เช่น ตั้ง Take Profit ไว้ที่ 100 จุด, ตั้ง Take Profit ไว้ที่ 20 Pip
4.2.การตั้ง Take Profit เป็น % ของเงินทุน
เช่น ตั้ง Take Profit ไว้ที่ 1% ของเงินทุน
สมมุติ มีเงินทุน 100 USD เทรด EURUSD ที่ 0.01 Lot
หากต้องการตั้ง Take Profit ที่ 1% ของเงินทุน ก็แปลว่าต้องได้กำไร 1 USD
ซึ่งแปลว่าต้องตั้ง Take Profit ไว้ที่ 100 จุด
Take Profit ข้อดีข้อเสีย
Take Profit ข้อดี
- การันตีกำไรหากราคาวิ่งไปยังจุดที่เราวิเคราะห์ไว้
- ประหยัดเวลาไม่ต้องนั่งเฝ้ากราฟทั้งวันเพื่อกดปิดออเดอร์ด้วยตัวเอง
- ลดความเสี่ยงจากการเหวี่ยงขึ้นลงของราคาอย่างรวดเร็ว เพราะบางครั้งหากเรารอกดปิดออเดอร์ด้วยตนเองอาจกดไม่ทัน
Take Profit ข้อเสีย
- ไม่ได้กำไรสูงที่สุด เพราะในบางกรณีราคาอาจวิ่งไปต่อได้อีกเยอะแต่เรากำหนดจุด Take Profit ไว้แล้วจึงโดนปิดออเดอร์ไปเสียก่อน
วิธีคำนวณ Take Profit และ Stop Loss
วิธีคำนวณว่าต้องตั้ง Take Profit และ Stop Loss ที่เท่าไหร่
*วิธีการนี้ใช้สำหรับการตั้ง Take Profit และ Stop Loss ที่คุณทราบจำนวนเงินแบบตายตัวเท่านั้น เช่น จะตั้ง Take Profit ให้ได้กำไร 100 USD และจะตั้ง Stop Loss ให้ตัดขาดทุนที่ 50 USD
*วิธีการคำนวณนี้ใช้ได้กับทุกโบรกเกอร์ Forex
เริ่มแรกไปที่ xm.com/th/forex-calculators/profit-loss
แล้วทำตามนี้
- สกุลเงินหลักของบัญชี: กดเลือกสกุลเงินของบัญชีเทรดของคุณ
- (ส่วนใหญ่เป็น USD)
- ราคาเปิด: กรอกราคา ณ จุดที่คุณเปิดออเดอร์
- คู่สกุลเงิน: กดเลือกคู่สกุลเงินที่คุณเทรด
- ตั้งค่า Stop Loss: กรอกว่าจะตั้ง Stop Loss คิดเป็นเงินกี่ USD
- (หรือหน่วยอื่นๆตามบัญชีเทรดของคุณ)
- ประเภทของบัญชี: ไม่ว่าใช้โบรกเกอร์ไหนให้เลือก Standard (1 lot = 100,000)
- (หากไม่ได้ใช้บัญชี Cent, Mini, Micro ให้เลือก Standard แต่ถ้าใช้ให้เลือก Micro)
- ตั้งค่า Take Profit: กรอกว่าจะตั้ง Take Profit คิดเป็นเงินกี่ USD
- (หรือหน่วยอื่นๆตามบัญชีเทรดของคุณ)
- ปริมาณเป็นจำนวน Lot: กรอก Lot Size ที่เทรด
- ประเภทของการเทรด: กดเลือกว่าเปิดออเดอร์ BUY หรือ SELL
- หากเปิดออเดอร์ BUY ให้เลือก ซื้อ / LONG
- หากเปิดออเดอร์ SELL ให้เลือก ขาย / SHORT
- กดคำนวณ
เช่น หากผมเทรด EURUSD ในบัญชี Standard
- เปิดออเดอร์ BUY
- ที่ 0.01 Lot
- ที่ราคา 1.01536
- ต้องการได้กำไรที่ 10 USD
- ต้องการตัดขาดทุนที่ 5 USD
แล้วอยากรู้ว่าต้องตั้งจุด Take Profit และ Stop Loss ที่เท่าไหร่ก็กรอกตามนี้เลย
ซึ่งจากภาพนี้แปลว่าหากผมเทรด EURUSD 0.01 Lot ที่ราคา 1.01536 แล้วอยากได้กำไรที่ 10 USD และ ตัดขาดทุนที่ 5 USD ต้องตั้งจุด Take Profit ที่ 1.02536 และต้องตั้ง Stop Loss ที่ 1.01036
วิธีคำนวณว่าหากตั้ง Take Profit และ Stop Loss ที่ x จุดจะได้กำไร/ขาดทุนเท่าไหร่
วิธีการนี้ใช้สำหรับคนที่จะตั้ง Take Profit และ Stop Loss แบบเป็นจุด แล้วอยากทราบว่าหากกำไรหรือขาดทุนจะได้เท่าไร
เช่น หากอยากรู้ว่าเทรด EURUSD แล้วจะตั้ง Take Profit 200 จุด และ Stop Loss 100 จุด มันจะได้กำไรเท่าไรหรือขาดทุนเท่าไร
เริ่มแรกไปที่ xm.com/th/forex-calculators/profit-loss
แล้วเลื่อนไปที่หัวข้อ “ระดับ Stop loss / Take Profit”
จากนั้นกรอกรายละเอียดต่างๆ
เช่น ผมเทรด EURUSD ที่ 0.01 Lot อยากทราบว่าหากตั้ง Take Profit 200 จุด และ Stop Loss 100 จุด มันจะได้กำไรเท่าไรหรือขาดทุนเท่าไร
ก็กรอกรายละเอียดดังนี้
- สกุลเงินหลักของบัญชี: กดเลือกสกุลเงินของบัญชีเทรดของคุณ (ส่วนใหญ่เป็น USD)
- ปริมาณเป็นจำนวน Lot: กรอก Lot Size ที่จะเทรด
- คู่สกุลเงิน: กดเลือกคู่สกุลเงินที่จะเทรด
- ตั้ง Stop Loss ที่ (จุด): กรอกว่าจะตั้ง Stop Loss ที่กี่จุด
- ประเภทของบัญชี: ไม่ว่าใช้โบรกเกอร์ไหนให้เลือก Standard (1 lot = 100,000)
- (หากไม่ได้ใช้บัญชี Cent, Mini, Micro ให้เลือก Standard แต่ถ้าใช้ให้เลือก Micro)
- ตั้ง Take Profit ที่ (จุด): กรอกว่าจะตั้ง Take Profit ที่กี่จุด
- กดคำนวณ
จากตัวอย่างนี้หมายความว่าหากผมเทรด EURUSD ที่ 0.01 Lot โดยตั้ง Take Profit 200 จุด และ Stop Loss 100 จุด หากได้กำไรจะได้ 2 USD และหากขาดทุนจะได้ 1 USD
คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับ Take Profit และ Stop Loss
แนะนำสำหรับคุณ
มีคำถาม? ทัก LINE เลย
หรือแอดไลน์ไอดี: @sakainvest (มี @)